“เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู ถิ่นที่อยู่อริยสงฆ์ มั่นคงความสะอาด”
ขอกราบสวัสดีท่านแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน (ดูทางการไปป่ะ!?) อ่ะๆ เอาใหม่ สวัสดีหนอนหนังสือทั้งหลาย… วันนี้แอดมินมีโอกาสกลับบ้านเกิดของตนเอง และได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จึงทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย
เอาเป็นว่าเราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับจังหวัดเล็กๆ ที่หลายคนอาจจะยังสับสนว่า จังหวัดนี้ตั้งอยู่ทางภาคเหนือ หรืออีสานกันแน่? ไม่รอช้า ไป..เที่ยว..เลยยยยยยยยย!
“จังหวัดเลย” หนึ่งในภาคอีสานที่ได้รับสมญานามว่า หนาวสุดในสยาม หากท่านที่เคยเดินทางไปสัมผัสมาแล้วคงสามารถบอกได้ว่า เฮ้ย! หนาวจริง หนาวจนเข้ากระดูก หนาวจนต้องร้องขอชีวิต ฮ่าฮ่าฮ่า ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า อากาศหนาวก็ต้องรอตามช่วงฤดูการนะครับ เดี๋ยวหาว่าหนาวตลอดทั้งปี อิอิ จริงๆ หน้าร้อนก็ต้องบอกตรงๆ เลยว่าร้อนมากกก (ก. ล้านตัว) เช่นกัน และแน่นอนว่าช่วงที่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุดคือฤดูหนาวนั่นเอง พร้อมไปสัมผัสความหนาวกันหรือยังครับ? ถ้าพร้อมแล้ว ไป..กัน..เลยยยยยย! การเดินทางครั้งนี้แอดมินขอแยกเป็นอำเภอ เผื่อบางท่านเดินทางไปยังสถานที่ใดและผ่านอำเภอเหล่านี้ และอาจสามารถแวะแช๊ะภาพกับสถานที่ที่เดินทางผ่านได้ สำหรับสถานที่แรกที่เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสนั่นคือ…
>>อำเภอด่านซ้าย<<
“พระธาตุศรีสองรัก” พระธาตุเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาว อ.ด่านซ้าย “สองรัก”
เป็นชื่อของพระธาตุมาจากในครั้นที่สร้างพระธาตุเกิดขึ้นในคราที่อาณาจักรหงสาวดีใน พม่ารุกรานอาณาจักรบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างอยุธยาและอาณาจักรล้านช้างในลาวทั้งสองอาณาจักรจับมือร่วมกันเพื่อต้านทัพพม่าและทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงเขตแดนซึ่งกันและกันจารึกไว้ในแผ่นหินพร้อมกับสร้าง “พระธาตุสีสองฮัก” บริเวณเนินสูงฝั่งตะวันออกของน้ำหมันถือเป็นหลักเขตแดนของทั้งสองอาณาจักร แต่มีข้อห้ามที่ว่า
“ห้ามใส่เครื่องแต่งกายที่มีสีแดงเข้าบริเวณพระธาตุเด็ดขาด เพราะถือว่าสีแดงหมายถึงเลือด และการรบราฆ่าฟันนั่นเอง”
“วัดเนรมิตวิปัสสนา” วัดแห่งนี้ตั้งสูงเด่นอยู่บนเนินเขา ห่างจากพระธาตุศรีสองรักเพียงเล็กน้อย
พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง และมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เกิดจากจินตนาการสร้างสรรค์ออกแบบ โดยพระและเณร มีภาพจิตรกรรมที่สวยงามประดับอยู่โดยรอบ มีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน และมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อพระมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มสร้างวัดและได้มรณภาพแล้ว บริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนและต้นไม้ร่มรื่นสวยงามและมีต้นไม้ที่สำคัญทางพุทธศาสนาคือ “ต้นสาละ” เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ หากใครที่เดินทางมาถึงด่านซ้ายก็ไม่ลืมที่จะแวะไปนมัสการและเที่ยวชม
“วัดโพนชัย (พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน)”
วัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับพระธาตุศรีสองรัก ประมาณ พ.ศ. 2103 ผู้ที่สร้างวัดนี้ตามข้อสันนิฐานน่าจะเป็นคนเดียวกับที่สร้างพระธาตุศรีสองรักนั่นก็คือ พระเถระของกรุงศรีอโยธยา 5 ตน และจากกรุงศรีสัตนาคณหุต 5 ตน ที่มาทำสัตยาบัน (หล่อน้ำสัจจาตามศิลาจารึก) สร้างพระธาตุศรีสองรักนั่นเอง ประเพณีสำคัญของวัดโพนชัยแห่งนี้ คือ งานบุญหลวง หรือที่เราอาจจะรู้จักกันในงานเทศกาลผีตาโขนนอกจากนี้ภายในยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สองแห่งคือ พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน และพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นเมืองด่านซ้ายอีกด้วย
>>อำเภอภูเรือ<<
“ภูเรือ” สาเหตุที่ขนานนามว่า “ภูเรือ”
เพราะมีภูเขาลูกหนึ่งมีชะโงกผายื่นออกมาดูคล้ายสำเภาใหญ่ และที่ราบบนยอดเขามีลักษณะคล้ายท้องเรือตลอดจนมีธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงาม มียอดเขาสูงที่สุดคือ ยอดภูเรือมีความสูงถึง 1,356 เมตรจากระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่มักเดินทางขึ้นยอดภูเรือ เพื่อชมแสงแรกของพระอาทิตย์ และสัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็นท่ามกลางทะเลหมอกที่ลอยคลอเคลียยอดเขา ช่างสวยงามจริงๆ
“วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง”
เนื่องจากที่ตั้งของวัดนี้อยู่บนเนินเขา หากมองจากตัวอำเภอภูเรือจะเห็นได้ถึงความงดงามของสิ่งก่อสร้างภายในวัดที่ทำจากไม้สักทั้งหลัง และหากเข้าไปสัมผัสด้านในก็ยิ่งจะพบกับความงามมากยิ่งขึ้น เพราะวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้ในวัดแห่งนี้ล้วนแต่เปี่ยมไปด้วยความวิจิตร อาทิ เช่น หินหยกจากแม่น้ำโขง พร้อมทั้งจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม สถานที่อาจไม่ได้ใหญ่มากแต่สามารถเดินเล่นเพลินๆ ได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นวิวของตัวเมือง อ.ภูเรือ ได้อีกด้วย
“วัดป่าห้วยลาด” หากเห็นแว๊บแรกแล้วต้องบอกได้เลยว่า สวยมาก…….!
แต่เดิมคือสำนักสงฆ์ห้วยลาดโดยมีหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ได้จาริกธุดงค์ผ่านมาด้วยความเลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านจึงได้เกิดสำนักสงฆ์แห่งนี้ขึ้น ภายหลังได้มีการพัฒนาจนเกิดสิ่งน่าสนใจขึ้นมากมาย อาทิเช่น ศาลาเฉลิมพระเกียรติอันใหญ่โตโอ่อ่า ซึ่งมีพระประธานสีขาวองค์ใหญ่นามว่า “พระสัพพัญญูรู้แจ้ง สามแดนโลกธาตุ” ประดิษฐานอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมอันวิจิตร ที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณลานหน้า วัดป่าห้วยลาด เช่นองค์เทพต่างๆ ถือเป็นจุดชุมนุมเทพ และที่โดดเด่นสะดุดตาก็คือ องค์พญานาค เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ อุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา อีกทั้งยังเชื่อกันว่าหากได้มาสักการะแล้วเสมือนราวกับว่าเป็นบันไดสู่จักรวาลอีกด้วย
“หากขับรถผ่านเส้นภูเรือในช่วงหนาวจะพบว่าบริเวณสองข้างทางนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ดูแล้วเพลินตาจริงๆ และยังสามารถซื้อกลับได้ด้วยนะ ชอบต้นไหน สีไหน ก็แจ้งแม่ค้าได้เลยถึงจะมีหลายร้าน แต่ราคาก็พอๆ กันเด้อ” ^^
>>อำเภอเชียงคาน<<
“ถนนคนเดินเชียงคาน” ไฮไลท์ของจังหวัดเลย ที่หากพูดถึงชื่อนี้คงต้องร้อง อ๋อ….
และแน่นอนว่าคงมีหลายท่านได้ไปเยือนมาด้วยตนเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และประทับใจกันสุดๆ เชียงคานเมืองเล็กๆ ติดริมแม่น้ำโขง มีฝั่งตรงข้ามคือเมืองสานะคาม หรือชนะคาม สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง
จุดที่ทุกคนต้องมาเช็คอินนั่นคือถนนคนเดินเชียงคาน ถนนเลียบชายโขงที่ยังคงความเก่าของบ้านเรือนต่างๆ (ถึงแม้ปัจจุบันมีปรับเปลี่ยนไปเยอะมาก) แต่ก็ยังเป็นปลายทางหลักของคนที่มาพักผ่อนอยู่ดี ตั้งแต่ต้นซอยจนถึงท้ายซอยมากมายไปด้วยร้านอาหาร และที่พัก ส่วนใหญ่ที่นี่มักจะเป็นประเภทโฮมสเตย์ ที่สำคัญชาวบ้านที่นี่จิตใจดีมาก… อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ การตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้า ถือได้ว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ห้ามพลาดจริงๆ ครับ
“ภูทอก เชียงคาน”
อ่ะอ้าว…! เคยได้ยินแต่ภูทอกที่ จ.บึงกาฬ ที่เลยก็มีด้วยหรือนี่? ภูทอกถือเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงคาน ใครที่ได้แวะมาเที่ยวเชียงคานไม่ควรพลาดการไปชมทะเลหมอกในยามเช้าที่นี่ นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม (ชนะคาม) สปป.ลาว และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน ส่วนทะเลหมอกนั้นจะเจอมากน้อยหรืออาจจะไม่เจอเลย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน คิดสะว่าเที่ยวไป..ลุ้นไป.. ^^
“ แก่งคุดคู้ ” เปรียบได้กับสถานที่ตากอากาศของคนเชียงคาน
รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามตามธรรมชาติ ทำให้สัมผัสแรกที่มาเยือนจึงไม่แปลกใจนักว่า ทำไมสถานที่แห่งนี้ ถึงมีแรงดึงดูดให้ใครต่อใคร ใคร่อยากมาสัมผัสกันบ้างสักครั้ง เวลาไปแต่ละครั้งแอดมินชอบไปทานข้าวที่นี่มาก เพราะอาหารอร่อย ได้วิวแม่น้ำโขง แถมยังเพลิดเพลินกับบรรยากาศเป็นอย่างมาก แนะนำว่าแก่งคุดคู้ควรไปตอนกลางวัน หลังจากนั้นค่อยไปต่อที่ถนนคนเดินเชียงคาน ณ ตอนค่ำ บอกได้คำเดียวว่า #ฟินสุดสุด
>>อำเภอภูหลวง<<
“เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง” “มรดกล้ำค่ำ ผืนป่าแห่งภาคอีสาน” ภูหลวง มีความหมายว่า เขาที่สูงใหญ่ หรือหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดิน ที่นี่จะมีความสูงมากกว่าภูกระดึง และภูเรือ เพราะมีความสูงถึง 1,571 เมตรจากระดับน้ำทะเล สำหรับจุดนี้จะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ
ท่านที่เดินทางมาไม่ควรพลาดที่จะเดินเยี่ยมชมสองข้างทางของผืนป่า พร้อมทั้งดอกไม้นานาชนิด การเดินทางต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางไปด้วย เพราะระหว่างทางสามารถพบเจอช้างป่าได้ทุกเมื่อ อันตรายหรือไม่ อันนี้ไม่รู้ แต่ที่รู้คือปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า ภูหลวงอาจจะเป็นเส้นทางที่เดินทางยากลำบากกว่าสถานที่อื่นๆ แต่รับรองได้เลยว่าหากได้มาเยือนที่แห่งนี้แล้ว สามารถพูดได้เลยว่า พักผ่อนที่นี่สบายใจสุดๆ
>>อำเภอหนองหิน<<
“สวนหินผางาม (คุนหมิงเมืองเลย)” สถานที่ท่องเที่ยวของ อ.หนองหิน
เมื่อเดินทางถึงจะพบกับภูเขาแท่งหินปูนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ อยู่กระจายเป็นลูกๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้างสลับกันไป บางลูกก็สามารถเดินผ่านทะลุได้จะมีชื่อเรียกต่างๆ กันตามลักษณะรูปร่างที่ปรากฏ นอกจากนี้ยังพบต้นไม้หายากและต้นไม้ยักษ์อย่างปรงเขาที่มีอายุหลายร้อยปี ด้วยเหตุที่มีเขาหินปูนเยอะมากมายจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “คุนหมิงเมืองเลย” สันนิษฐานกันว่าในอดีตเคยเป็นพื้นที่ของท้องทะเลมาก่อน และมีอายุมากว่า 225 ล้านปี อีกทั้งยังสามารถเดินเที่ยวชมบริเวณด้านใน และยังมีน้ำตกเพียงดิน สถานที่พักผ่อนสำหรับครอบครัว หรือผองเพื่อนที่เดินทางมา สามารถจัดปิกนิคได้เลยเด้อ…
“ภูป่าเปาะ (ฟูจิเมืองเลย)”
ไม่มาไม่ได้กับสถานที่แห่งนี้ หากฟังชื่อรกอาจจะนึกภาพไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่พอบอกว่าฟูจิเมืองเลยปุ๊บ ก็ทำให้อยากจะเห็นด้วยตาว่า จริงหรือมั่วกันแน่
เดินทางจากสวนหินผางามมาไม่ไกลก็ถึงเวลาเปลี่ยนยานพาหนะเป็นรถอีแต๊ก โดยพลขับจะพาเราไต่ภูขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดชมวิวที่เมื่อเห็นแล้วต้องร้อง ว้าว…. เหมือนฟูจิจริงๆ ด้วย ไม่รอช้าที่จะหยิบกล้องขึ้นมาแช๊ะ แช๊ะ แล้วก็แช๊ะ กับภาพที่มีเบื้องหลังเป็นภูหอ หรือภูเขาไฟฟูจิเมืองเลย จุดชมวิวไม่ได้มีจุดเดียวนะ รถไถจะพาเราขึ้นไปเรื่อยๆ ทั้งหมด 3 จุด และมีจุดที่ 4 ที่ต้องเดินเท้าขึ้นไป ซึ่งสามารถมองเห็นวิวพาโนรามาแบบ 360 องศา แต่ห้ามไปหน้าร้อนเด็ดขาด เพราะจะรับรู้ได้เลยว่า “ร้อนตับแตก” มันเป็นอย่างไร…
…พอหอมปากหอมคอกันไปกับสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ของจังหวัดเล็กๆ จังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน กับคำบอกเล่าที่ชอบหยอกล้อกันว่า “มาไม่ถึงสักที” อย่างจังหวัดเลย อันที่จริงแล้วยังมีจุดน่าสนใจอื่นๆ อีกมากมายที่เกิดขึ้นใหม่มาเรื่อยๆ ทั้งนี้หากท่านที่ต้องการพักผ่อนชิวๆ รับบรรยากาศดีๆ ขอนำเสนอจังหวัดเลยไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะครับ #รักแล้วรักเลย การเดินทางครั้งหน้า แอดมินจะพาไปพิชิตกับสถานที่ที่ได้ขึ้นชื่อว่า
>> MADE by ปริญ <<
ให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องมหัศจรรย์
TravelWonders
สอบถามเพิ่มเติม
โทร : 02-525-2235 / 08-6318-0608
Facebook: Travel Wonders Co.,Ltd
Line: @travelwonders.th
Website: www.travelwonders.co.th
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/08468