ข้อมูลเกี่ยวกับประเทศภูฏาน (Bhutan) ในฐานะคนทำทัวร์อย่างชูใจก่อนที่จะได้เดินทาง Land of Happiness รู้แค่ 2 อย่าง คือ…
- กษัตริย์จิมมี่ ผู้เป็นที่รักของชาวไทยด้วยกิริยาและรูปลักษณ์ที่สง่างาม
- ประเทศที่ดูแล้วไปยากจังเพราะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ยังไม่รู้เลยว่าอยู่ส่วนใดของโลก?
เอาเป็นว่าเดี๋ยวชูใจพาไปย้อนอดีตกันสักนิด … ในช่วงปี 2551 เจ้าชายจิกมี่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเยือนไทยพร้อมเข้าร่วมพิธีของในหลวงครบ 60 ปี ทำให้ชาวไทยรู้จักภูฏานมากขึ้น แต่ก็ยังคิดว่าเอ… อยู่ส่วนไหนของทวีปเอเชียน้า? อยู่จีนหรืออินเดียหรือเปล่า? ความคิดนี้ยังคงวิ่งแล่นในหัว แต่ก็ต้องถึงกับสะดุดเมื่อก้าวแรกที่ได้สัมผัสกับสายการบิน Druck Air สายการบินเดียวที่บินตรงสู่ภูฎาน
แต่ก็นั่นแหละครับ “เครื่องบินก็คือเครื่องบิน” แต่เราจะรู้สึกถึงความแตกต่างก็ต่อเมื่อเราได้รับการบริการจากแอร์สุดสวย และสจ๊วตสุดหล่อ ขอบอกได้เลยว่าประทับใจกับการบริการมาก… หลังจากที่เครื่องล้อแตะพื้น พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ก็ได้พบกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นแต่งกายดูเป็นเอกลักษณ์จริงๆ ที่สำคัญยังพร้อมต้อนรับบริษัทเราเป็นอย่างดี แต่พอหันไปทางผู้ร่วมทริปก็ต้องชะงักเพราะทุกคนพร้อมใจกับควักทั้งกล้องถ่ายรูป ไอไฟน หรือ ซัมซุง S4-S5 (หุหุ เก่าจริง) งัดมายิงภาพแห่งความประทับใจ ทั้งภาพพระฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ผู้งามโฉมพร้อมพระราชินี และยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นสนามบินเพียงไม่กี่แห่งที่ซ่อนตัวอยู่กลางหุบเขา
มองดูแล้วเป็นภาพที่สบายตามาก ความรู้สึกแรก ณ ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้จริงๆ ครับคุณ การเก็บภาพเท่านั้นที่หยุดเราได้ #ตายอย่างสงบศพสีชมพู แต่เอ… เราจะได้เที่ยวเมืองนี้ไหมอ่ะ? ดูดีมีเสน่ห์สุดๆ ไม่รอช้าผมได้ลั่นวาจาถามไกด์ด้วยความสนใจ “ผมว่าคุณควรเย็นตามชื่อคุณนะ..ชูใจ เราจะได้กลับมาแน่อีก 2-3 วันข้างหน้านี้ เพราะผมจะพาคุณเข้าสู่เมืองหลวงที่คุณจะไม่ได้เห็นอะไรแปลกๆ แต่มีเสน่ห์แน่นอน” >> ก็แน่สิครับ ผมเพิ่งเคยมานี่ ผมได้แต่คิดในใจ…
และแล้วรถบัสขนาด 20 ที่นั่งพาเราโค้งซ้ายที ขวาทีกว่า 1 ชั่วโมง ก็พาเราสู่ ทิมพู “เอ๊ะ! ตำรวจไปยืนทำมืออะไรดูตลกจัง ยกซ้ายที ขวาที” ลูกทัวร์อีกท่านถามด้วยความสงสัย ไกด์สวนกลับด้วยความรวดเร็ว คุณลองสังเกตุดูนะ แล้วสัมผัสเองแล้วคุณจะเข้าใจกับวัฒนธรรมของเรา
พรุ่งนี้ผมจะเฉลย อ่ะ! ยังค้างคากันต่อไป ส่วนตัวชูใจเห็นบ้านเมืองก็พยายามรวบรวมข้อมูลที่ได้จากไกด์บ้าง สังเกตุเองบ้าง พูดคุยซักถามด้วยก็มี …สวยเหลือเกิน หลายคนที่กำลังนั่งรถพูดออกมา พร้อมกับชายตาไปมองบ้านเรือนที่มีลักษณะสูงไม่เกิน 5 ชั้น เลยทำให้ตึกอาคารมีความสูงเท่าๆ กันหมด และตึกที่กำลังสร้างใหม่ ใช่ว่าจะสร้างได้ตามใจฉัน แต่ต้องได้รับการอนุมัติทั้งรูปแบบและสีสันจากหน่วยงานของรัฐบาลก่อน ระหว่างทางยังพบกับป่าไม้ที่ยังคงความเขียวขจีไว้แม้กระทั่งในเมืองหลวงเอง เพราะพื้นที่ 72 เปอร์เซ็นต์ของประเทศเป็นป่าไม้ทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะเป็นที่ราบนั่นเอง (พื้นที่ทั้งประเทศมีขนาดกว่า 38,394 ตารางกิโลเมตร // เทียบได้กับ 2 เท่าของพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา)
เมื่อพูดถึงรูปแบบของบ้าน ไกด์ก็ได้พาไปดูสถานที่ๆ สำคัญอย่าง Folk Museum พร้อมกับบอกว่าพื้นที่ของภาคตะวันออกทั้งหมดยังคงรูปแบบนี้ คือ ชั้น 1 เป็นที่เก็บม้า ชั้น 2 ที่ทำไวน์ และทำเนยและชีส (ถึงว่าตลอดระยะเวลาหลายวันมีชีสและเนยอยู่ในอาหารเยอะมาก) ชั้น 3 เป็นห้องนอน ห้องครัว และ… บอกหมดก็ไม่สนุกลองออกเดินทางค้นหาคำตอบด้วยตัวเองนะครับ ^^
แล้วท่านสมาชิก Travel Wonders จะรู้มันแซ่บขนาดไหน ที่ชูใจเล่าเปรียบเสมือนอาหารที่ไม่มีน้ำจิ้มครับ เรามาพูดถึงอาหารกันสักหน่อย ที่นี่ปลูกข้าวเป็นหลักแต่ก็ยังไม่พอสำหรับการบริโภคในประเทศ ต้องนำเข้าจากอินเดียด้วย “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ชูใจได้ลิ้มลองอาหารมื้อแรกก็รู้สึก ว้าว… แปลก… อร่อยดี… อาหารที่ได้ลองเป็นบุฟเฟ่ต์ข้าว, ไก่, ผัก, ฟักทอง เป็นรูปแบบผสมสานจีนและอินเดีย มื้อแรกผ่านไปยังโอเค ไหวอยู่ แต่พอมื้อต่อไปโอ้…น้ำพริกอยู่หนายย? เอาน่า…เราต้องทำตามคติตัวเองเข้าไว้ ว่ามาประเทศไหนแล้วควรทานอาหารท้องถิ่น นั่นหมายถึงเราได้สัมผัสความเป็นประเทศนั้นๆ อย่างแท้ทรู…
ถ้าอร่อยก็เก็บไว้ในความทรงจำ แต่ถ้าไม่อร่อยก็เก็บไว้แบ่งปันเพื่อน 555 ไม่ต้องห่วงที่นี่ในความคิดของผมคืออาหารทานง่ายกว่าอินเดีย หรือเนปาล เพราะมีเครื่องเทศนิดหน่อย และที่สำคัญบริษัททัวร์ส่วนใหญ่ก็มีน้ำพริก น้ำจิ้ม มาม่า อาหารเสริมสารพัด บางครั้งเข้าครัวไปทำยำ ทอดไข่เจียวเองแล้ว (ดูแลดีขนาดนี้ รับเป็นพ่อบ้านสักคนไหมครับ) ^^
จบจากอาหารมาเป็นเรื่องเที่ยวกันบ้าง ส่วนใหญ่แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวจะเป็นทางวัฒนธรรมอย่างวัดและวังตามความเชื่อของศาสนาพุทธแบบมหายานซึ่งได้รับอิทธิพลจากทิเบต และบางส่วนเป็นฮินดูจากอินเดียด้วย มองดูแล้วเพลินตาจริงๆ ไม่มีคำไหนสามารถบรรยายได้ ต้องลองมาสัมผัสเองแล้วจะรู้ว่า… ชูใจ ไม่ ได้ โม้ …
หากถามว่าเหตุผลที่ท่านควรมาเยือนที่ภูฏานหลังจบทัวร์วันแรก ชูใจขอคัดเน้นๆ 3 เรื่องละกัน
- สัตว์ที่หาดูได้ยากอย่าง TarKin ตัวเหมือนวัว เขาเหมือนแกะ หน้าเหมือนม้า มาป๊าบ..ป๊าบ..กัน ที่สำคัญพบได้ในโลกนี้แค่ที่ภูฏาน และประเทศจีน (บางเมืองเท่านั้น)
- ไฟเขียว ไฟแดง แน่นอนว่ากรุงเทพฯ เราชินกับรถติด แต่ที่นี่ไม่มีสัญญานไฟทั้งประเทศ ! สุดจริง…ต้องตามมาดู
- ทาชิโซซอง (TASHICHO DZONG) เป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาล สถานที่พักฤดูร้อนของสังฆราชและที่ทำงานของกษัตริย์ ดูไม่ใหญ่แต่อบอุ่นด้วยสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ ใกล้ๆ กันเป็นที่ประทับของกษัตรย์ พร้อมกับไกด์ได้ชี้ให้คณะเราดู ซึ่งแต่ละคนก็พูดว่าไหนๆ มองไม่เห็นเลย เพราะเล็กมาก… แต่สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ท่านทรงดำเนินตามรอยของในหลวงเรา และปรับรูปแบบกับคำว่าเศษรฐกิจพอเพียง เห็นแล้วประทับใจกับพระองค์ท่านครับ
…นี่แค่วันแรกกับความประทับใจของประเทศที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลเฉลี่ย ประมาณ 2,200 เมตร สภาพอากาศเดือนกันยายนเฉลี่ย 20 องศา เย็นสบายมากครับ (ช่วงที่น่าไปเยือนมากที่สุด อากาศเย็นๆ สบายๆ คือกันยายน ถึงเดือนพฤษภาคม) ใครที่ต้องการมาฟอกปอด บำรุงไต หายใจคล่อง โดยไม่ต้องพบแพทย์กับทางเลือกใหม่ๆ ภูฏาน เป็นโอกาศอันดีนะครับ อยากกระซิบดังๆ บอกทุกท่านว่าสายการบินที่บินตรงสู่ภูฏานมีแค่ 4 ประเทศนะจ๊ะ แค่อินเดีย เนปาล สิงคโปร์ และกรุงทพฯ ถือว่าเราได้รับเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้บินตรงขนาดนี้ อยู่บนเครื่องไม่นานมากเพียง 3 ชั่วโมง ถือว่าไม่เร็วและไม่นานเกินไป เชื่อได้เลยครับว่าท่านจะอิ่มทั้งธรรมชาติ และวัฒนธรรมอย่างแน่นอน
…ครั้งหน้าชูใจจะพาไปเที่ยวที่ไหน หรือหาอะไรอร่อยๆ ทาน อย่าลืมติดตามชมกันได้นะครับ…
#ให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องมหัศจรรย์
#TravelWonders
สอบถามเพิ่มเติม
โทร : 02-525-2235 / 08-6318-0608
Facebook: Travel Wonders Co.,Ltd
Line: @travelwonders.th
Website: www.travelwonders.co.th
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/08468