กู๊ดดดดดดดด มอนิ่งค่ะทุกคน เรามาลุยกันต่อเลยดีกว่า เพราะเรารู้ว่าทุกคนยังไม่เหนื่อย หลังจากที่เราได้ซึมซับบรรยากาศเมืองพิษณุโลก ช็อป ชิม แชะ กันมาแล้ว วันนี้เราจะพาปอดไปหาออกซิเจน ฮ่าๆๆ บอกเลยว่าได้ทำกิจกรรมที่ใช้แรงเยอะแน่นอน เราจะพาทุกท่านท่องเที่ยวในใน Theme Nature and Adventure ถ้าพร้อมแล้ว ลุยกันเลย!!!

เทือกเขาสลับซับซ้อน ตั้งอยู่บนพื้นที่รอยต่อของ 3 จังหวัด คือ พิษณุโลก เลย และเพชรบูรณ์ สภาพอากาศมีความเย็นตลอดปี รวมถึงมีฝนตกชุก ทำให้ที่นี่มีทะเลหมอก และนี่ก็เป็นอีก 1 ที่ ที่หลายๆคนตั้งตารอคอย อยากมาดูพระอาทิตย์ขึ้นท่ามกลางอากาศหนาว และแสงแดดไออุ่นจากพระอาทิตย์ ณ “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อ.นครไทย ขับรถจากตัวเมืองพิษณุโลกผ่านถนนหมายเลข 2013 และ ถนนหมายเลข 2331 ประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากจะพามาสัมผัสธรรมชาติแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทยอีกด้วย เนื่องจากเคยเป็นยุทธภูมิสำคัญในอดีตพรรคคอมมิวนิสต์ ทำให้ยังคงมีสิ่งของ เครื่องใช้ หลงเหลือให้เราได้เห็นและศึกษาอยู่บ้าง ที่นี่จะมีเจ้าหน้าที่นำชมระหว่างทางไปจนถึงลานหินปุ่มและผาชูธงกันเลยทีเดียว อัตราค่าเข้าอุทยานฯ ผู้ใหญ่ ราคา 20 บาท เด็ก ราคา 10 บาทเท่านั้นเอง แต่กว่าก่อนจะไปถึงจุดหมายปลายนั้น ข้างทางมีความหมายเสมอนะทุกคน ระหว่างที่เดินไปนั้นเราจะได้ชมความงานของพืชพันธุ์ไม้ และ…และ…และ ถึงจุด unseen ที่เรียกได้ว่าปีนึงมีครั้งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ “ใบเมเปิ้ลสีแดง” ที่ร่วงลงมาตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวขจี เรียกได้ว่า สวยจนอยากร้องกรี๊ดออกมาดังๆ เราไม่ต้องไปถึงต่างประเทศแล้วววว!!! จุด unseen นี้จะมีให้เห็นในช่วงหน้าหนาวในเดือนธันวาคมจนถึงกลางมกราคม เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆในการมาครั้งนี้

 

แล้วเราก็เดินทางต่อไปเรื่อยๆมาจนถึง “ลานหินปุ่ม” เป็นลานหินที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ซึ่งมีหินผุดขึ้นมาเป็นปุ่ม เป็นปม ขนาดไล่เลี่ยกัน คาดว่าเกิดจากเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติของหิน เป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับใครหลายๆคนเลยล่ะค่ะ เพราะหินที่เป็นเป็นตะปุ่มตะป่ำนี้มีลักษณะที่ไม่เหมือนกันเลย สามารถชมวิวและถ่ายรูปได้ตามสบายใจเลยค่ะ

จากนั้นเดินไปอีก 500 เมตร เราก็จะมาถึง “ผาชูธง” มีลักษณะเป็นโขดหินยื่นออกไป ที่ซึ่งเห็นวิวโดยรอบได้แบบ 180 องศากันเลยทีเดียว เพราะว่าผาธงนี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1304 เมตร บอกได้เลยว่าใครที่เดินมาถึงนี่เก่งสุดยอดเลยนะ มาแล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะว่าเราเป็น ผู้พิชิตผาชูธง ประเทศไทย!!!

สำหรับสายรักสุขภาพและสายแอดเวนเจอร์ เวลาของพวกคุณมาถึงแล้วว เพราะเราจะพาไป “Rainforest resort and Rainforest farm” อำเภอวังทอง ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกประมาณ 23 นาที เดินทางโดยใช้ถนนหมายเลข 22 เราจะให้ทุกท่านได้ทำกิจกรรมสุดตื่นเต้นและสนุกโลดโผนแบบตั้งตัวไม่อยู่กันเลยทีเดียว และกิจกรรมที่เราจะไปทำกันก็คือ “ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ผจญภัย 17 แก่งสุดท้าทาย” ซึ่งจะเริ่มเล่นกันช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคมของทุกปี ระยะทางของการล่องแก่งลำน้ำเข็กนั้น รวมทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร มีแก่งทั้งหมด 17 แก่ง โดยเริ่มจากระยะน้ำนิ่ง (ระดับ 1) ไปถึงระยะดับสูง (ระดับ 5) ตามลำดับ ระดับความแรงของน้ำจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางแอ่งโหดมากน้ำกระทบกับโขดหินสูงขึ้นถึง 2 เมตรก็มีมาแล้ว และลำน้ำเข็กนี้ถือได้ชื่อว่า โหด มันส์ สนุก ติดอันดับ 1 ในไทยเลยหล่ะ ตื่นเต้นสุดๆ สำหรับใครที่ห่วงเรื่องความปลอดภัย บอกเลยว่าการล่องแก่งที่ลำน้ำเข็กนั้นมีความปลอดภัยสูง ก่อนนักท่องเที่ยวจะได้ลงเล่นนั้น จะต้องได้รับฟังคำแนะนำ ชี้แจงต่างๆ อุปกรณ์ป้องกัน อุปกรณ์ชูชีพ หมวกกันน็อค รวมถึงการฝึกหัดจากนายหัวท้าย และนายท้ายเรือซึ่งจะร่วมล่องแก่งไปด้วย ฉะนั้นหายห่วงไปได้เลย

*ปล.มีค่าใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมล่องแก่งไม่ว่าจะเป็นเดี่ยวหรือกลุ่ม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่

Line : @travelwonders.th ได้นะจ๊ะนายจ๋า *

ในส่วนของ Rainforest farm เจ้าของฟาร์มได้มีแนวคิดในการอยากทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ และเป็นตัวอย่างให้แก่ชุมชนและผู้ที่สนใจทั้งเรื่องการจัดการขยะ ปศุสัตว์ ปุ๋ยหมักชีวภาพ พลังงานทดแทน รวมไปถึงการคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพใช้เอง เช่น สบู่ น้ำยาสระผม น้ำยาล้างจาน ยาหม่อง ผลิตเอง ปลอดสารเคมีแน่นอน และยังนำเอาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับตนเองและฟาร์มด้วย ส่วนใครที่จะเข้ามาชมนั้นสามารถเข้ามาได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่อาจจะต้องติดต่อล่วงหน้าก่อนนะคะ การเที่ยวฟาร์มนี้จะมีคุณลุงที่เป็นเจ้าของ (ใจดีนะ) คอยนำชมและเล่าความเป็นมาหรือความรู้เกี่ยวกับฟาร์มให้ได้ฟัง นำเดินดูบริเวณสวนผักครัวปลอดสารพิษ เอ๊ะๆ ลืมบอกว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่สวนผักเท่านั้นนะ แต่ยังมีฟาร์มสัตว์ต่างๆให้ได้ชมด้วย

และก็ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกด้วยนั่นก็คือ การเก็บผักจากสวนมาปรุงอาหารกินเอง ทุกคนสามารถเนรมิตอาหารที่เป็นแบบฉบับของตนเองได้อย่างสนุกสนาน อยากทานอะไรทำเลย เพราะอะไร เพราะเรากินคนเดียวนั่นเอง แฮร่ แต่รับประกันความสด กรอบ หวาน ของผักที่นี่เลยนะคะ ปลอดสารพิษแลพอร่อยด้วย (ต้องลองๆๆ)

สถานที่ต่อไปที่เราจะพาไปเช็คอินนั้น……บอกได้เลยว่า เหมาะกับการมาพักผ่อนให้กายาหายเหนื่อจริงๆ ใช้ชีวิตแบบ slow life เอาใจมาอยู่ที่จิต เอาจิตมาอยู่ที่ใจ ฟุ้งซ่านอะไร ทิ้งมันไปซะ!! เพราะที่นี่คือ “บ้านมุง   เนินมะปราง” แนะนำให้เดินทางด้วยถนนหมายเลข 1295 ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก่อนที่จะมาเป็นบ้านมุงนั้น ที่นี่เคยชื่อว่าเนินมะปราง เป็นอำเภอเล็กๆ ที่มีอากาศหนาวเล็กน้อย มีภูเขาหินปูนสูงใหญ่โอบล้อมหมู่บ้านเล็กๆนี้ไว้ ได้ชื่อว่าเป็น “กุ้ยหลินเมืองไทย” ชุดถ่ายรูปจะอยู่ที่ชุนชนบ้านมุง หลักกิโลเมตรสีขาว กิจกรรมที่นี่ คือ นั่งรถอีแต๊กชมวิวและสูดอากาศสดชื่น คนขับก็จะเป็นชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านนี้แหละค่ะ จะพานำชมพร้อมทั้งบรรยาย ชี้นู่นนี่ เล่าความเป็นมาให้ฟังตามวิถีไกด์ชาวบ้าน พาไปดู ทุ่งดอกไม้ น้ำตก และถ้ำ และในแต่ละสถานที่ๆผ่านถ้าเราชอบหรืออยากถ่ายรูปก็สามารถบอกคุณลุงให้หยุดได้ ส่วนในช่วงเย็น ก็จะมาถึงจุดไฮไลท์ของที่นี่แล้ว นั่นก็คือฝูงค้างคาวขนาดใหญ่ที่บินโชว์ก่อนกลับรัง มากันเป็นแพเลย เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น แต่ที่นี่มีให้ทุกคนได้เห็น มันสุดยอดไปเลยแหละ แต่ถ้าใครที่ยังไม่มีที่พักที่นี่มีโฮมสเตย์ ที่ชาวบ้านเปิดให้ทุกคนได้ไปพักผ่อน รับประทานอาหารเช้าแบบชาวบ้านทำ และอาจจะได้เจอหมอกในยามเช้าด้วย สำหรับใครที่อยากพักสมอง ชาร์จพลังให้กับชีวิต เราขอแนะนำเลยนะ ไม่ควรพลาด และไม่ผิดหวังแน่นอน

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน เต็มอิ่ม ครบรสของการมาเที่ยวเลยใช่ไหมล่ะ บอกแล้วทริปนี้จัดเต็มค่ะ พิษณุโลกที่ใครหลายๆคนมองว่าเป็นเมืองผ่าน หรือรู้จักแค่พระพุทธชินราช ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เราออกไปค้นหาผจญภัยอีกเยอะเลยล่ะค่ะ ครั้งหน้าเราจะพาไปที่ไหนอีกรอติดตามต่อนะก๊ะ เอ๊ะ ยังไม่จบนี่หน่า ขอเวลาสักแป๊บน้า…..สำหรับใครที่สนใจท่องเที่ยวหรืออยากให้เราคิดโปรแกรมทัวร์สนุกๆให้แบบนี้ สามารถติดต่อได้ที่ www.travelwonders.co.th  ที่นี่เค้ารับจัดทัวร์ทั้งในและต่างประเทศ ไม่ว่าคุณจะมาคนเดียวหรือเป็นกลุ่มเราก็สามารถทำได้ดั่งคุณเนรมิต การบริการระดับดีเยี่ยม รับประกันความสนุกค่ะ สำหรับนี้ วัวไปทีหลัง เพราะว่า ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

กรุงเทพ-พิษณุโลก : ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านอ่างทอง จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 117 เข้าสู่จังหวัดพิษณุโลก รวมระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร หรือ 5 ชั่วโมงโดยประมาณ

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่. . .

โทร : 02-525-2235 / 08-6318-0608

Line : @travelwonders.th

Facebook : Travel Wonders Co.,Ltd

Website : www.travelwonders.co.th

ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่11/08468

 

                                                                                                                                                                                                                                                                   ธนพร ใจทน (โบว์)

 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก…..

ภาพตลาดใต้ (ขอขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวเอดีดีนิวส์)

ภาพวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารและพระพุทธชินราช (ขอขอบคุณภาพจาก 77 ข่าวเด็ด)

ภาพของฝากจังหวัดพิษณุโลก (ขอขอบคุณภาพจาก www.travelplk58.wordpress.com)

ภาพรถราง ศาลสมเด็จพระนเรศวร และมัคคุเทศก์นำเที่ยว (ขอขอบคุณภาพจาก www.sanook.com)

ภาพสวนบัวอมรรัตน์ (ขอขอบคุณภาพจาก www.sanook.com และ http://www.preawpak.com)

ภาพสามล้อนำเที่ยวและอาหาร (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.edtguide.com)

ภาพถนนคนเดิน พิษณุโลก (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.wongnai.com)

ภาพอุทยานภูหินร่องกล้าและใบเมเปิ้ลแดง (ขอขอบคุณภาพจาก www.unseentourthailand.com และ https://findingbeautyeverywhere.com)

ภาพผาชูธงและลานหินปุ่ม (ขอขอบคุณภาพจาก https://www.thetrippacker.com และ https://phitsanulok.mots.go.th)

ภาพล่องแก่งลำน้ำเข็ก (ขอขอบคุณภาพจาก https://thailandtourismdirectory.go.th )

ภาพสวนผักและอาหาร (ขอขอบคุณภาพจาก https://travel.mthai.com )

ภาพบ้านมุม อำเภอเนินมะปราง (ขอขอบคุณภาพจาก https://thailandtourismdirectory.go.th )

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *