แหม.. แค่ขึ้นต้นคำทักทายก็บ่งบอกมาเลยว่ารอบนี้ไปต่างประเทศอีกแล้วเด้อพี่น้อง ^^ แต่ใช่ว่าจะไกลจากบ้านเรามากมาย เลยภาคเหนือประเทศไทยขึ้นไปก็ใช่แล้ว เพราะนี่คือ “หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก..โลก..โลก..” (เสียงก้องกังวานราวกับตะโกนหาคนรัก ณ ริมหน้าผา)
ต้องขอบอกเลยว่าหลวงพระบางเป็นเมืองที่ปริญเองอยากไปสัมผัสมานานมาก แต่ยังไม่มโอกาสได้ไปสักที รอบนี้เลยวางแผนมาอย่างดีและจะไม่ให้ซ้ำรอยเดิมเด็ดขาด พร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋า พร้อมพุ่งทะยานสู่ “แขวงหลวงพระบาง ประเทศลาว” กันโลดครับโผม…
หากเป็นเมื่อก่อน การจะเดินทางไปถึงหลวงพระบางได้นั้นคงต้องเป็นทางเรือ หรือไม่ก็รถโดยสาร ที่ใช้เวลานาน โ-ค-ต-ร แต่ทุกวันนี้น่ะหรือ หึหึ มีสายการบินที่ให้บริการบินตรง กรุงเทพฯ-หลวงพระบาง สะดวกขึ้นเยอะมากกกกกก และแน่นอนว่ารอบนี้เราเดินทางโดยสารการบินราคาสุดคุ้มอย่าง AIR ASIA จองล่วงหน้านิดๆ ได้ราคาดีสุดๆ แถมหากช่วงไหนจัดโปรโมชั่นนะ คุณเอ๊ย..! คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม! (โฆษณาขนาดนี้ Travel Wonders ให้บริการจองตั๋วเครื่องบินด้วยนะ และยังติด TOP 25 ของ AIR ASIA อีกด้วย สุด!)
ใช้เวลาไม่นาน 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติหลวงพระบางเป็นที่เรียบร้อย รอช้าอยู่ใย เข้าไปสัมผัสเมืองมรดกโลกกันเลยยยย! >> หลวงพระบางเป็นเมืองเก่าแก่ และเป็นราชธานีแห่งแรกของอาณาจักรล้านช้าง สมัยแรกเริ่มสถาปนาอาณาจักรล้านช้าง
แต่เดิมมีชื่อว่า “เมืองซวา” (ออกเสียงว่า ซัว) และเมื่อ พ.ศ. 1300 ขุนลอซึ่งถือเป็นปฐมกษัตริย์ลาวได้ทรงตั้งเมืองซวาเป็นราชธานีของอาณาจักรล้านช้างและได้เปลี่ยนชื่อเมืองใหม่เป็น “เชียงทอง” จนเวลาผ่านไปเนิ่นนานได้มีกษัตริย์องค์ใหม่ได้พระราชทานนามใหม่ว่า “หลวงพระบาง” ตามชื่อของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองนั่นเอง<<
เนื่องจากไฟล์ทบินที่ถึงหลวงพระบางก็บ่ายโมงแล้ว ดังนั้นโปรแกรมแรกของเรานั่นก็คือ “กิน” ปกติแล้วคนเราต้องกินเพื่ออยู่ แต่ขออภัยเพราะปริญเป็นคนที่อยู่เพราะกิน อิอิ จึงลองหาอะไรรองท้องสักหน่อยก็พบกับ “เฝอ” เอ๊…มันก็คล้ายๆ กันกับที่เวียงจันทน์นี่หน่า? สรุปคือเหมือนกันนั่นแหละ ฮ่าฮ่าฮ่า
จากนั้นก็ถึงเวลาที่เราจะไปสถานที่แรก ณ พระธาตุพูสี พระธาตุนี้ตั้งอยู่บนยอดเขา ดังนั้นทางเดียวที่จะขึ้นไปถึงพระธาตุได้นั่นคือการเดินเท่านั้น (อย่าเพิ่งเหนื่อย นี่แค่วันแรก) แล้วเราก็เดินขึ้นเขาไปตามบันไดที่มีถึง 328 ขั้น หืย…แค่นี้เด็กๆ // แฮ่ก แฮ่ก และแล้วก็มาถึงแล้วครับพระธาตุพูสี สาธุ ดังๆ ไปเลย สาธุ!!! #สบายใจฉ่ำ พระธาตุพูสีถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม เพราะนอกจากทัศนียภาพของตัวเมืองหลวงพระบาง ที่โอบล้อมด้วยภูเขา แทรกแซงด้วยแม่น้ำสายสำคัญอย่างแม่น้ำคาน เหย…เห็นภาพแบบนี้อยู่เบื้องหน้าก็หายเหนื่อยแล้ว ^^
ลงไปเดินเล่นกันเถอะ หลังจากลงมาจากพระธาตุก็เห็นว่าบริเวณด้านล่างกลายเป็นที่ตั้งของถนนคนเดิน ที่เต็มไปด้วยของกิน ของฝาก และที่สำคัญได้เห็นถึงวิถีชีวิตยามค่ำคืนอัน Slow Life ของคนหลวงพระบางอีกด้วย ที่นี่แหละเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างจริงจัง ว่าแล้วก็ราตรีสวัสดิ์ครับ ^^ (คิดจะไปก็ไป ไรฟ่ะ!?)
หาว…เสียงเจี้ยวจ้าวอะไรแต่เช้า เอ๋…ผู้คนเยอะแยะบริเวณหน้าที่พักเต็มไปหมด มีการปูเสื่อ และม้านั่งเล็กๆ พร้อมกระติบข้าวอันเป็นเอกลักษณ์ อ๋ออออ ตักบาตรข้าวเหนียวที่เคยได้ยินไงเล่า ไปๆๆ ไปทำบุญกันหลังจากที่ได้รับของใส่บาตรก็นั่งลงบนม้านั่งรอเวลาไม่นานก็เริ่มเห็นพระสงฆ์จำนวนหลายรูปค่อยๆ ย่างก้าวมาทางเรา (ตื่นเต้นสุดๆ) ตอนแรกคิดว่าไม่เยอะเท่าไหร่แต่ที่ไหนได้ ที่นี่เวลาตักบาตรยามเช้าถือเป็นอะไรที่สำคัญมากใส่ทีคือเตรียมของมาเป็นกระสอบได้เลย จึงทำให้เป็นสิ่งแรกที่มาหลวงพระบางแล้วต้องมีกิจกรรมนี้ด้วย!
หลังจากอิ่มบุญก็ถึงเวลาต้องอิ่มท้องกันบ้าง อาหารเช้าที่ห้องอาหารก็ใช้ได้เลยคิดว่าถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน ไปครับสัมผัสสถานที่ในเมืองหลวงพระบางกัน
เริ่มกันที่ พระราชวังเก่าของกษัตริย์ลาว เดิมคือพระราชวังเดิมของเจ้ามหาชีวิต หลังจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลลาวได้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงโบราณวัตถุและสิ่งของ มีค่าต่างๆ รวมไปถึง “พระบาง” พระพุทธรูปเก่าแก่คุ๋บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบางก็ประดิษฐานที่นี่เช่นกัน ต่อด้วย วัดเชียงทอง เป็นวัดที่เก่าแก่มากที่สุดวัดหนึ่งในหลวงพระบาง
สร้างโดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช กษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรล้านช้างและล้านนาถือเป็นวัดที่สำคัญและมีความงดงามที่สุด จนได้รับการยกย่องจากนักโบราณคดีว่าเป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว
ตกบ่ายมาอากาศก็เริ่มร้อนขึ้นมาบ้าง สิ่งเดียวที่ต้องการคือ ความสดชื่น “ไปนู่นเลยลูกน้ำตกน่ะ” ห๊ะ! น้ำตก! “ใช่ๆ น้ำตกตาดกวางสี น้ำตกที่ถือได้ว่าสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งเลยนะ” OMG! ไม่รอช้านั่งรถไปแทบไม่คิดชีวิต ขอซิ่งๆ ครับอ้าย ^^
ออกจากตัวหลวงพระบางมาประมาณ 40 นาทีได้ก็มาถึงกับสิ่งที่รอคอย น้ำตกตาดกวางสี แว๊บแรกที่เห็นคือน้ำสีฟ้ามาก… (แต่คนพื้นถิ่นบอกว่าหากต้องการเห็นน้ำสีสวยกว่านี้แนะนำให้มาช่วงฤดูร้อนนะ เพราะช่วงนั้นคือจะสวยจริงๆ) โอ้โห..นี่ขนาดหน้าหนาวยังสวยขนาดนี้ แล้วช่วงที่คุณลุงบอกจะต้องสวยมากแน่ๆ ว่าแล้วก็ ตู้ม!!! โดดน้ำให้สบายใจกันไปข้าง ที่นี่น้ำตกสามารถเล่นได้และมีที่เปลี่ยนชุดด้วย ถือว่าอำนวยความสะดวกได้ระดับนึงเลยอ่ะ ไปให้สุดแล้วหยุดที่ ย่านเมืองเก่าหลวงพระบาง ย่านนี้ถือว่าของกินก็มีตัวเลือกมากมาย อาจจะไม่เยอะเท่าถนนคนเดิน แต่หากกลัวว่าจะไม่จุใจก็ไปซ้ำต่อที่ถนนคนเดินได้เช่นกัน ลืมบอกไปยามกลางคืนที่หลวงพระบางร้านค้าจะทยอยปิดเวลาประมาณสี่ทุ่มถึงห้าทุ่มก็เงียบสงัดแล้ว
เนื่องจากเป็นพื้นที่มรดกโลกดังนั้นจะมีการจัดระเบียบให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่ามาเยือน
ต่อไปเรื่อยๆ Zz…
อรุณสวัสดิ์กับเช้าวันที่สาม วันนี้ต้องกลับไทยแล้ว แต่ยังมีเวลาช่วงเช้าให้เดินเที่ยวต่ออีกสักนิด เริ่มจากตอนเช้าๆ จิบกาแฟ ณ ร้านประชานิยม ร้านกาแฟชื่อดังของหลวงพระบางที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปกับป้ายร้านกาแฟนี้ รสชาติก็ทั่วๆ ไปเลยครับ เน้นเอาบรรยากาศโดยเฉพาะ จากนั้นจึงขอเที่ยวต่อ ณ วัดวิชุนราช หรือวัดหมากโม ด้วยรูปทรงของเจดีย์มีลักษณะคล้ายแตงโมผ่าครึ่งและเจดีย์รูปทรงแปลกตานี้เองจึงทำให้ ชาวเมืองหลวงพระบางเรียกว่า พระธาตุหมากโม
ไปต่ออีกสักที่ ณ วัดใหม่สุวรรณภูมาราม หรือที่ชาวหลวงพระบางเรียกกันสั้นๆ ว่า “วัดใหม่” เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชบุญทัน ซึ่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์สุดท้ายของลาวและยังเคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางอีกด้วย สำหรับที่นี่มีสิ่งที่โดดเด่นคือ “สิม” หรือโบสถ์ในภาษาไทย ที่มีความงดงามและแปลกตากว่าทั่วๆ ไป อ่ะอ๊าว…และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องโบกมือบ๊าย..บาย..เมืองมรดกโลกอย่างหลวงพระบางเมืองท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากบ้านเรานัก และเดินทางสะดวก
สำหรับใครที่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนอันสงบ แต่เปี่ยมไปด้วยความน่ารักของผู้คน มาเที่ยวต่างประเทศยังไงให้เหมือนเที่ยวบ้านตนเอง แนะนำว่าหลวงพระบาง หรือเมืองอื่นๆ ของประเทศลาวนั้นคล้ายคลึงกับบ้านเรามากที่สุดแล้ว ไม่ต้องกลัวเรื่องภาษา ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน เรียกได้ว่ามาที่เดียวก็สามารถสูดออกซิเจนได้เต็มปอดไปนานๆ เลย // เที่ยวหลวงพระบางจะเน้นไปทางวัฒนธรรม วัดวาอารามต่างๆ ไม่มีผับ
หรือร้านอาหารที่ส่งเสียงดังในยามค่ำคืน ดังนั้น หากอยากพาพ่อแม่ หรือครอบครัวมาพักผ่อนละก็..หลวงพระบางคืออีกหนึ่งเมืองที่แอดมินแนะนำเลย อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนไปเที่ยวกันนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม แล้วเจอกันใหม่โอกาสหน้าครับ Bye..Bye..
>> MADE by ปริญ <<
ให้การเดินทางของคุณเป็นเรื่องมหัศจรรย์
TravelWonders
สอบถามเพิ่มเติม
โทร : 02-525-2235 / 08-6318-0608
Facebook: Travel Wonders Co.,Ltd
Line: @travelwonders.th
Website: www.travelwonders.co.th
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่ 11/08468