ถ้าคุณหลงใหลในเสน่ห์ของธรรมชาติ สายหมอก ขุนเขา บุษบาขอแนะนำต้องไม่พลาดมา จ.น่าน มาชมความชุ่มฉ่ำของธรรมชาติ พักผ่อนคาเฟ่เก๋ๆ และร้านอร่อยครบครัน บอกเลยว่ามาเที่ยวน่านกันสักครั้งจะอบอุ่นผ่อนคลายจนอยากจะอยู่นานๆเลยแหละ
จังหวัดน่านความโดดเด่นอยู่ที่ฤดูกาล อย่างหน้าฝนจะมีการทำนาบรรยากาศช่วงนั้นจะมีทุ่งนาเขียวขจีพร้อมสายหมอกหลังฝนตก บนดอยก็จะได้ฟิลเขียวชะอุ่ม ช่วงปลายฝนต้นหนาวทุ่งนาก็จะเหลืองอร่าม หลังจากปลายปีเข้าสู่หน้าหนาวทุ่งนาก็จะถูกเก็บเกี่ยวไปหมดแต่จะเหมาะกับการไปนอนค้างแรมโฮมสเตย์บนดอย หรือจะเป็นที่พักริมแม่น้ำก็น้ำใสจนเห็นปลา น้ำไม่แดงขุ่นเหมือนตอนฤดูฝน
แต่ไฮไลท์คือการนอนกางเต้นท์ดูดาวนี่แหละ พลาดไม่ได้เลยค๊า แม้แต่ฤดูร้อนก็ยังมีธารน้ำให้นั่งชิวคลายร้อนกันอีกด้วย ในแต่ละอำเภอของจังหวัดน่านจะมีที่เที่ยวอยู่มากมาย หากใครได้มาสัมผัสบรรยากาศแล้วเป็นต้องหลงรัก
เดินทางจากกรุงเทพฯด้วยสายการบิน Air Asia ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง ก็มาถึงแล้วจ๊า แต่!!!!! อย่าลืมใช้บริการจองตั๋วเครื่องบินผ่านแผนกตั๋วของทราเวลวันเดอส์น๊า ได้ราคาดีมาก การันตีรางวัล Top Sales 25 บริษัทที่ออกตั๋วเยอะที่สุดกับแอร์เอเซีย #ช่วงมีของดีขอขายของหน่อย ฮ่า ฮ่า…
มาถึงจังหวัดน่านกันแล้ว ที่สำคัญน่านไม่ได้มีแค่ภูเขา แต่ยังมีวัดวาอารามที่สวยงามน่าสนใจ รวมถึงศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาที่น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว ที่แรกที่บุษบาจะพาไปนั้นก็คือ วัดศรีมงคล หรือ วัดก๋ง ตั้งอยู่ที่อำเภอท่าวังผา
ต้องขอบอกว่าไม่ได้เป็นแค่วัดเหมือนที่หลายท่านเคยไปมา เพราะที่วัดนี้บรรยากาศรอบๆวัดนั้นเต็มไปด้วยสีสันต์ความเป็นล้านนา มีการตกแต่งบริเวณวัดให้มีมุมถ่ายรูปได้ทุกจุดเลย
นอกจากจะได้ไหว้พระ ด้านหลังวัดนั้นยังได้วิวภูเขาและท้องนาที่สวยงามมากๆ มีสะพานไม้ไผ่ผ่ากลางลงไปในทุ่งนามีร้านกาแฟอยู่ด้านล่าง สายเซฟฟี่เป็นที่ถูกอกถูกใจแน่นอน
จากวัดก๋งบุษบาจะพาทุกท่านมุ่งหน้าสู่ ถนนลอยฟ้า 1081 สันติสุข-บ่อเกลือ ระหว่างท่างสวยมาก รายล้อมไปด้วยภูเขาเขียวๆ ต้นไม้ใบหญ้ามองสบายตาสุดๆ ยิ่งมาฤดูหนาวอากาศเย็นสบายสุดๆไปเลยค๊า
ไฮไลต์ของถนนสายนี้อยู่ที่โค้งหมายเลข3 ที่ใครๆผ่านก็ต้องแวะแชะภาพ ทำไมถึงเรียกว่าโค้งหมายเลข3 เพราะตอนเรามองไปจะเห็นเป็นเลข3จริงๆนะคะ
เดินทางถึงอำเภอบ่อเกลือไฮไลต์ของการมาที่นี่เลยก็คือมาดู บ่อเกลือโบราณ (บ่อเกลือสินเธาว์) ตั้งอยู่ที่ อ.บ่อเกลือ ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร
มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขา ชาวบ้านที่นี่จะผลิตเกลือสินเธาว์ เพื่อบริโภคและจำหน่าย
นอกจากนี้ยังมีที่พักแบบใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆให้ได้พักผ่อนอย่างสะดวกสบายกันอีกด้วย บุษบาขอแนะนำ อาโปเด้อมาง ที่พักติดริมน้ำมาง กลางขุนเขา มีความร่มรื่นและเป็นธรรมชาติ วิวน้ำลำธารใสจนเห็นปลาว่ายน้ำเลยค๊า แถมอากาศเย็นสบาย สดชื่นสุดๆไปเลย…
วันต่อมาก่อนจะเดินทางไปยังอำเภอปัวนั้นขอพาทุกท่านแวะเที่ยว อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ที่มีความสูงที่สุดอันดับ 6 ของไทย จุดสูงสุุดมีความสูงถึง 1,980 เมตรจาก
ระดับน้ำทะเล เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด บรรยากาศรอบๆ ของที่นี่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ ที่อุดมสมบูรณ์มากๆ
ถ้าใครมาพักหรือมาเที่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็จะได้เห็น ดอกชมพูภูคา ดอกไม้ที่สามารถหาชมได้ที่นี่เพียงที่เดียวในเมืองไทย
แต่ด้านในมีบ้านหลังใหญ่ บ้านเกวียนเป็นหลังให้ค้างคืนด้วย หรือใครชอบกางเต็นท์นอนก็มีจุดให้กางเต็นท์นะคะ อีกทั้งมี จุดชมวิว 1715 เป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สุด
และเป็นจุดชมทะเลหมอกอีกด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยทิวเขาสลับซับซ้อน มองลงไปเห็นถึงตัวอำเภอบ่อเกลือกันเลยที่เดียว.
. . เดินทางมาถึงตัวอำเภอปัว หากไม่ได้แวะมาลิ้มลองรสชาติเมนูเห็ดที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำก็ถือว่าพลาด!
ที่นี่เปิดเป็นร้านอาหารวิวสวยปัง แถมอากาศก็ดี๊ดี นั่งทานอาหารอร่อยชมวิวทุ่งนาทุ่งหญ้าสีเขียว นอกจากเมนูอาหารปรุงจากเห็ดสุดพรีเมี่ยมแล้ว ที่สำคัญทุกเมนูไม่ใส่ผงชูรส เค้ายังมีคาเฟ่ที่เสิร์ฟสารพัดเมนูอร่อย เรียกได้ว่า มาที่เดียวอิ่มครบเลยค่ะ
อาหารอร่อยแถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย บุษบาขอแนะนำเมนูที่เด็ดสุดบอกเลยว่าใครมาเป็นต้องสั่งก็คือ พิซซ่าเห็ด ที่เก็บเห็ดสดๆจากฟาร์มที่ปลูกเห็ดเอง มีถึง 3 สายพันธ์ุ อย่าง เห็ดภูฐานดำ เห็ดหูหนู และเห็ดนางฟ้า ไม่มีขายนะคะแต่ทางร้านจะนำไปทำเป็นเมนูอาหารให้เราได้ทานนั่นเอง
ใครแวะเวียนมาเที่ยวอำเภอปัว อย่าลืมแวะมาอิ่มอร่อยกันน๊า การันตีความเก๋าเพราะเปิดมากว่า 7 ปีแล้ว . .
นอกจากที่นี่แล้วหากท่านใดอยากจะเลือกซื้อของฝาก แถมได้นั่งจิบกาแฟชิวๆท่ามกลางความงามตามธรรมชาติของ ท้องฟ้า แม่น้ำ ภูเขา ต้นไม้ รวมทั้งสีเขียวขจีของ ทุ่งนา ที่สามารถทอดมองไปได้ไกลจนสุด ลูกหูลูกตา ต้องที่นี่เลยค๊า ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ หรือ ร้านลำดวนผ้าทอ กาแฟไทลื้อ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว
นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของอำเภอน่าเที่ยวแห่งนี้ เพราะนอกจากรสชาติของเครื่องดื่มจะถูกปากบรรดาคอกาแฟแถมราคาไม่แพงด้วยแล้ว ร้านกาแฟบรรยากาศสุดชิคนี้ ยังมีซุ้มไม้มุงจาก ทอดยาวเรียงรายลงไปในผืนนา รอให้บรรดอาคันตุกะจากต่างถิ่นเดินเลาะไปตามทางบนสะพานไม้ไผ่ก่อนไปนั่งรับลม ชมวิวกันแบบชิว-ชิว ได้แบบไม่คิดตังค์เพิ่ม เรียกว่าซื้อกาแฟแก้วละไม่กี่สิบบาท
แต่สามารถนั่งชมวิวหลักล้านกันได้เลยทีเดียว และยังสามารถเลือกซื้อเลือกชมผ้าทอไปเป็นของฝากติดไม้ติดมือได้อีกด้วย. . .
กลับเข้ามาตัวอำเภอเมืองน่าน ระหว่างทางกลับมานั้นหากท่านใดชื่นชอบผลงานศิลปะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือ หอศิลป์ริมน่าน
เมื่อเข้ามาจะเจอพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน”เฮือนพญาผาบ”แสดงของเก่าสะสม และมีส่วนจัดแสดงงานศิลปะ
แบ่งเป็น 2 อาคาร คือ อาคารริมน้ำ ซึ่งจะแบ่งเป็นส่วนต่างๆ มี 3 ชั้น เช่น เฮือนหนานบัวผัน ออฟฟิศ และอาคารใหญ่ จะเป็นโถงกลางด้านหน้า ถัดมามีห้องจัดแสดงด้านใน
และมีทางขึ้นไปชั้น 2 ด้านหลังมีทางออกมาเฮือนศรีนวล ร้านอาหารและเครื่องดื่ม คาเฟ่ริมแม่น้ำน่าน ราคาถูกมาก มีส่วนด้านล่างที่ติดกับถนน บรรยากาศดีมากๆ . . .
มาถึงโซนในตัวอำเภอเมืองกันแล้ว มาน่านทั้งทีที่นี่ไม่ควรพลาดเลยนั่นก็คือ วัดพระธาตุแช่แห้ง เป็นวัดประจำปีเกิดของคนเกิดปีเถอะ หรือปีกระต่าย
อีกทั้งยังเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวน่านอยู่ห่างจากตัวเมืองไปราว 2 กม. มีอายุราวกว่า 600 ปี พญาการเมืองโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1891 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้มาจากกรุงสุโขทัยนั่นเอง
ก่อนที่จะไปสถานที่ต่อไปนั้นทุกท่านเคยได้ยินประโยคนี้กันไหมคะ “กระซิบรักบรรลือโลก” ไฮไลท์ของเมืองน่านที่ไม่ว่าใครก็ต้องมาถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเมื่อมาถึงเมืองน่าน เป็นจิตรกรรมฝาผนังที่มองแล้วช่างโรแมนติกเสียเหลือเกิน แถมยังมีบทกลอนที่ไพเราะเพราะพริ้ง รับรองว่าได้ยินปุ๊บจะอยากแต่งกลอนไปจีบสาวๆกันเลยเชียว . . .
“คำฮักน้องกูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว
ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาขะลุ้ม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม
ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป
ก็เลยเอาไว้ในอกในใจ๋ตัวชายปี้นี้
จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…” มาเที่ยวน่านถ้าไม่ได้แวะมาที่ วัดภูมินทร์ นั้นถือว่ามาไม่ถึง ที่นี่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองน่านที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะเวียนมาเสมอ สถาปัตยกรรมโดดเด่นที่สร้างเป็นวิหารทรงจตุรมุขตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว
รวมไปถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยเฉพาะภาพกระซิบรัก หรือภาพของปู่ม่านย่าม่าน ตำนานกระซิบบันลือโลก ภาพแห่งความรักที่เป็นตัวบ่งบอกรักที่ยาวนานเป็นอมตะ วาดในสมัยปลายรัชกาลที่ 4 ฝีมือหนานบัวผัน ศิลปินชาวไทลื้อ ที่แสดงออกถึงการแต่งกายเต็มยศของผู้ชาย ผู้หญิง ชาวไทลื้อ…
เดินออกจากวัดมาอีกฝั่งหนึ่งจะเจอกับ อุโมงค์ลีลาวดี ที่อยู่ในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไปถ่ายรูป เช็คอิน ได้ฟินๆกันเลยทีเดียว และตรงข้ามอุโมงค์ลีลาวดีเป็น วัดพระธาตุช้างค้ำ เป็นเจดีย์ที่ได้รับอิทธิพลทางด้านศิลปะสุโขทัย ภายในวัดประดิษฐานเจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งเป็นศิลปสมัยสุโขทัย อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 แวะเข้าไหว้พระกันอีกเสียหน่อย
เสร็จจากวัดออกมาก็ตกเย็นแล้ว บริเวณถนนหน้าวัดมีถนนคนเดิน แถมมีที่ให้นั่งทานอาหาร หรือ ลานขันโตก ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อของมานั่งทาน
พร้อมชมการแสดงพื้นบ้านของคนท้องถิ่น สามารถร่วมเต้นร่วมสนุกได้อีกด้วยนะคะ คนน่านเรียกว่า “ข่วงเมืองน่าน” แหล่งรวมศิลปะ วัฒนธรรม ที่สะท้อนวิถีชีวิต อาหาร การแต่งกายต่างๆผ่านการค้าขายแบบถนนคนเดินนั่นเอง
ข่วงเมืองน่านจะมีแค่วัน ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ นะคะ ท่านใดตั้งใจจะมาละก็อย่าลืมมาให้ถูกวันกันน๊า
อ๋ออออ!!!! ยังมีอีกหนึ่งที่ที่บุษบาอยากแนะนำ สำหรับท่านไหนที่ชอบตั้งแคมป์ นอนกางเต็นท์ดูดาว ไม่ควรพลาดที่นี่เลยค่ะ ดอยเสมอดาว ซึ่งวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปีจะเป็นช่วงเริ่มฤดูกาลท่องเที่ยว ทางอุทยานแห่งชาติศรีน่านจะเปิดให้จองเต็นท์ขึ้นไปนอนค้างคืนได้ และไฮไลท์เด่นๆที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ
การไปนอนดูดาวที่ใกล้ “เสมอดาว” ดั่งเช่นชื่อดอยของจริง ที่แห่งนี้นอกจากดาวนับล้านดวงที่สุกสกาวเต็มท้องฟ้า ยังมีทะเลหมอก จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น อากาศหนาวๆ และมุมถ่ายรูปแสนสวยท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ให้เราไปเก็บภาพได้แบบ 360 องศา ต้องมาช่วงฤดูหนาวนะคะฟินมากกกกกก
แต่หากท่านใดชอบความตื่นเต้น และกิจกรรมแอดเวนเจอร์ สุดมันส์ละก็ บุษบาขอบอกว่าต้องมาเที่ยวช่วงฤดูฝน กับการล่องแก่งน้ำว้า สุดยอดแก่งอันดับ 1 ในประเทศไทย ล่องกันให้สะใจไปเลยกับระยะทาง120 กิโลเมตร ฤดูที่เหมาะสมในการล่องแก่งเริ่มตั้งแต่ต้นเดือน กันยายน ถึงต้นเดือนมกราคม
เป็นยังไงกันบ้างคะ เคยมาเที่ยวน่านกันหรือยัง ถ้ายังต้องลองไปกันสักครั้ง แล้วจะรู้ว่ามนต์เสน่ห์ที่มาพร้อมๆกันทั้งธรรมชาติ ศิลปะ วัฒนธรรม รวมถึงผู้คนที่เป็นมิตรนั้นสามารถทำให้การเดินทางของทุกท่านเป็นได้มากกว่าการท่องเที่ยว แต่ถ้าอยากเดินทางให้สนุก และยังสะดวกสบายแล้วละก็ให้คิดถึงทราเวิล วันเดอส์ นะค๊า อุ๊ปส์! ขายของยันตอนจบจ๊า
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่. . .
โทร : 02-525-2235 / 08-6318-0608
Line : @travelwonders.th
Facebook : Travel Wonders Co.,Ltd
Website : www.travelwonders.co.th
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เลขที่11/08468